ยาฟาวิพิราเวียร์ การรักษาต้องเร็วเมื่อเริ่มมีอาการถึงจุด
(จุดนั้นเป็นแพทย์ตัดสินใจจากการรวมอาการและการตรวจต่างๆ)
5/1/64
ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
คณะที่ปรึกษา รมต สาธารณสุข
เราใช้ ใน experimental model ในหนูที่เป็น rabies และ rescue ได้ 10% โดยเทียบขนาดยาตามของบริษัทฟูจิฟิล์ม T705 avigan (และรายงานใน JID 2016) และ propose ใน nature review Dis primer 2017 (rabies) ในการรักษาคนที่เป็น rabies
และได้นำเรียน อย และ กรม คร 24 มกราคม 2563 และนำมาใช้ใน โควิด-19 คนไทย เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2563 โดยครั้งแรกใช้ห้าวันตามสูตร ใช้ในไข้หวัดใหญ่ของญี่ปุ่น
แล้วหลังจากนั้น อาจารย์นายแพทย์ วิศิษฎ์ โรงพยาบาลบำราศ และอจ หมอแก้ว รองอธิบดี กรม คร จึงได้ปรับเปลี่ยนเป็น 10 วัน และใช้ขนาด 8X2 ใน วันแรก และ 3X2 ในวันที่ 2-10
ทั้งนี้ถ้าให้ห้าวันจำนวนไวรัสจะกลับสูงขึ้นมาอีก จึงปรับเป็น 10 วัน
ในคนไข้ในประเทศไทย ดูดีมาก ถ้าให้เร็ว ก่อนที่การติดเชื้อจะจุดชนวน provoke neutrophil extracellular traps หรือ NETS ที่จะไปกระตุ้น วงจร ของ IL1 beta loop เกิดเป็น มรสุมภูมิวิกฤติ cytokine storm ซึ่งในระยะนี้จะเริ่มมีการทำลายเนื้อเยื่อในอวัยวะต่างๆเป็นแผลเป็นเยื่อพังผืด ไม่มากก็น้อย และต้องใช้ยาต้านการอักเสบรุนแรง จนถึง monoclonal antibody ต้าน TNF IL1 b. IL6 IL17/23 ชึ่งมักไม่ได้ผล โดยที่ในระยะนี้จำนวนไวรัสจะไม่มากแล้ว โดยที่ถ้ามีการอักเสบตั้งแต่ระยะแรกสามารถใช้ colchicine และ hydroxychloroquine ได้ผล
ที่เราวิเคราะห์ cytokine chemokine 48 ตัว ถ้ารักษาเร็ว กระบวนการของโรคจะไม่เลยไปถึง IL 6 TNF เลยในผู้ป่วยเกือบ 30 รายที่นักวิทย์ ของเราวิเคราะห์ และผลไม่เกี่ยวกับสายพันธุ์ใดๆ
ทั้งนี้เนื่องจากเรามีแทบทุกสายพันธุ์ตั้งแต่เดือนมีนาคมและเมษายน ทั้ง G ต่างๆ สายพันธ์ G GR GH S L O V และ GV ในเดือน ตุลาคม ตัวที่มีการจับตามอง D614G มีมาตั้งแต่ มีนาคม เช่นกัน และความรุนแรงไม่จำเป็นที่สัมพันธ์กับ complement C5b-9 เสมอไป
ดังนั้น สายพันธ์ต่างๆที่จะดาหน้าเข้ามาเรื่อยๆ ทั้ง อังกฤษ แอฟริกา เราเอาอยู่แน่ๆ
ปัญหาคือ ถ้าต้องรักษาเร็วหมายความว่าผู้ป่วยต้องไม่ล้นทะลัก เกินความสามารถของโรงพยาบาล ของบุคลากร และของอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้และ ยา favipiravir เป็นตัน
source : https://หมอดื้อ.com/?p=2838
